Banner

PSK Trail 2019

February 17, 2019
สวนป่าเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กาญจนบุรี

Categories

30 km
Super Early Bird Rates
5 - 28 December 2018
฿1,150
Early Bird Rates
Dec 29, 2018 - Jan 30, 2019
฿1,300
Normal Rates
Jan 31 - Feb 9, 2019
฿1,400
21 km
Super Early Bird Rates
5 - 28 December 2018
฿1,000
Early Bird Rates
Dec 29, 2018 - Jan 30, 2019
฿1,150
Normal Rates
Jan 31 - Feb 9, 2019
฿1,250
10 km
Super Early Bird Rates
5 - 28 December 2018
฿800
Early Bird Rates
Dec 29, 2018 - Jan 30, 2019
฿950
Normal Rates
Jan 31 - Feb 9, 2019
฿1,050
3 km
Super Early Bird Rates
5 - 28 December 2018
฿400
Early Bird Rates
Dec 29, 2018 - Jan 30, 2019
฿500
Normal Rates
Jan 31 - Feb 9, 2019
฿550

Race schedule

Saturday, February 16, 2019

Time Description
11:00 - 18:30 รับเสื้อและเบอร์วิ่ง

Sunday, February 17, 2019

Time Description
05:30 นักวิ่งทุกระยะทำการอบอุ่นร่างกาย
06:00 ระยะ 30km ออกตัว
06:15 ระยะ 21km ออกตัว
06:30 ระยะ 10km ออกตัว
06:40 ระยะ Fun-Run 3km ออกตัว
13:00 สิ้นสุดการแข่งขัน

ขอเชิญนักวิ่งทุกท่าน มาร่วมสัมผัสประสบการณ์การวิ่งเทรล ในเส้นทางเส้นใหม่ ใน อ.เมือง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งนักวิ่งทุกท่าน จะได้พบกับธรรมชาติอันสวยงามของป่าภาคตะวันตก สวนและไร่เกษตรกรรม รวมไปถึงวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเขาพิสดงธ์ หรือ เขาหัวสิงโต เส้นทางวิ่งเทรลของ PSK Trail นี้ มีระยะให้เลือกทั้งหมด 4 ระยะ คือ 30km, 21km, 10km, และ 3km

ซึ่งในระยะทาง30kmนี้ เป็นระยะสำหรับนักวิ่งที่ต้องการความท้าทาย เส้นทางวิ่งเทรลที่มีบรรยากาศการขึ้นเขา และลงเขาพิสดงธ์ โดยมีความชันสะสม อยู่ที่ 600 เมตร ส่วนในระยะ 21km เหมาะสำหรับนักวิ่งเทรลหน้าใหม่หรือนักวิ่งที่ต้องการมาฝึกซ้อมเพื่อวิ่งเพิ่มระยะ ในบรรยากาศเส้นทางวิ่งเทรลที่มีเนินเบาๆ ไม่ยากเกินไปนัก โดยมีความชันสะสม อยู่ที่ 130 เมตร ส่วน ระยะ 10km เป็นเส้นทางวิ่งเทรลผ่านทางราบและไร่เกษตรกรรมที่สวยงาม และสุดท้าย ระยะ 3km สำหรับเด็กและครอบครัว

เตรียมฟิตร่างกายให้พร้อม แเล้วมา Explore The Unseen Route กับ PSK Trail 2019 ผจญภัยสู่เส้นทางใหม่ ที่จะเปิดโลกของคุณให้กว้างกว่าเดิม

แบบเสื้อ และเหรียญที่ระลึก

Section image

Contact

รันลาพาชิว

ที่เที่ยวกาญจนบุรี ไปกี่ทีก็ไม่เบื่อ

1. เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124

Section image

หากเบื่อชีวิตเมืองกรุง มีแต่เรื่องวุ่นวาย ลองออกไปเที่ยวพักกายพักใจ ไปใช้ชีวิตแบบวิถีไทยในอดีต แต่งชุดไทย ห่มสไบ เดินเล่นย้อนยุคที่ เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124 ที่เที่ยวแห่งใหม่ของเมืองกาญฯ เมืองจำลองย้อนยุคของไทยสมัย รัชกาลที่ 5 ได้ใช้ชีวิตแบบคนในยุคนั้นจริงๆ ทั้งบ้านเรือน อาหาร ของใช้ และภาษาที่ใช้ก็แบบดังเดิมกัน เก๋ไก๋ไปอีกเจ้าค่ะ

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : แต่งชุดไทย ห่มสไบ เดินเล่นย้อนยุคที่ “เมืองมัลลิกา ร.ศ. 124” ที่เที่ยวแห่งใหม่ เมืองกาญฯ

2. ช่องเขาขาด ร่องรอยประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่แสนสงบ

Section image

ขอบคุณรูปภาพจาก theTripPacker

“ช่องเขาขาด” หรือ “ช่องไฟนรก” แต่เดิมเคยเป็นพื้นที่ที่เหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัว ปัจจุบันที่แห่งนี้กลายเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งความทรงจำ เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลภาพถ่าย ข้าวของเครื่องใช้ระหว่างการสร้างทางรถไฟสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ โดยรัฐบาลออสเตรเลีย ได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ขึ้นได้อย่างเป็นระเบียบสวยงาม ตั้งอยู่บริเวณ กม. 64–65 บนทางหลวง 323 สายกาญจนบุรี-ไทรโยค-ทองผาภูมิ

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ณ ช่องเขาขาด ร่องรอยประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่แสนสงบ

3. น้ำตกเอราวัณ สวรรค์ชั้น 7

Section image

ขอบคุณรูปภาพจาก journey gallery (http://www.facebook.com/journeygallery)

มาชมความงามของ น้ำตกเอราวัณ สวรรค์ชั้น 7 ณ อุทยานแห่งชาติเอราวัณกันค่ะ น้ำตกที่ถือได้ว่าสวยงามติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย สภาพทางธรณีวิทยาของพื้นที่แถบฝั่งตะวันตกของบ้านเราส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินปูนเกือบตลอดทั้งแนว ทำให้น้ำตกที่อยู่ในแถทบนี้ จะมีสีสันเป็นสีเขียวมรกตสวยงามมากๆ ตั้งแต่น้ำตก เอราวัณ น้ำตกไทรโยคน้อย ไทรโยคใหญ่ เรื่อยไปจนถึงทีลอซูและทีลอเร

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : เที่ยวน้ำตกเอราวัณ สวรรค์ชั้น 7 จ.กาญจนบุรี

4. สังขละบุรี มนต์เสน่ห์ที่คุณต้องหลงรัก

Section image

สังขละบุรี อำเภอหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นดินแดนแห่งมนต์เสน่ห์ ที่ใครต่างเข้ามาก็เป็นอันต้องหลงรัก ด้วยวิถีชีวิตชาวมอญแบบเรียบง่าย ผู้คนเป็นมิตร อากาศดี ใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าอัศจรรย์มากมาย

เช่น มีแม่น้ำซองกาเรีย เป็นศูนย์รวมความมีชีวิตชีวา, พิธีตักบาตรมอญ ประเพณีเก่าแก่ของชาวบ้าน, สะพานมอญ หรือ สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ข้ามแม่น้ำซองกาเรียไปยังหมู่บ้านมอญ ถือเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย และเป็นอันดับสองของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็งในพม่าและเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอสังขละบุรี เป็นสะพานแห่งศรัทธา ที่เกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของชุมชนที่อาศัยอยู่ในสังขละบุรี

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม

  • 7 มนต์เสน่ห์แห่งสังขละบุรี รับรองว่าคุณต้องหลงรัก
  • สังขละบุรี ที่แห่งนี้เหมือนมีมนต์
  • สะพานมอญ สังขละบุรี สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย

5. โดดน้ำ ล่องแพ

Section image

ไปเที่ยวกาญจนบุรี นอกจากจะได้มาซึมซับบรรยากาศดีๆ และธรรมชาติที่สมบูรณ์แล้วนัน หนึ่งกิจกรรมที่เราต้องทำก็คือการโดดน้ำ ล่องแพ เป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลย ซึ่งตอนนี้ก็มีที่พักลอยแพให้ได้เลือกกันหลากหลาย และแต่ละที่ก็จะมีกิจกรรมให้เราได้ทำกันอย่างสนุกสนานอีกด้วยเราจึงขอยกตัวอย่างมาให้ได้ดูกันค่ะ

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม

  • 1,000 นิดๆ ซื้อชีวิตลอยแพได้ 2 วัน 1 คืน ที่ ไทรโยค วิว ราฟ์ท จ.กาญจนบุรี

  • เดอะ โฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์แคว รีสอร์ท บ้านลอยน้ำ กลางขุนเขากาญจนบุรี

  • Bamboo Hut กระท่อมเขาดิน ทองผาภูมิ กาญจนบุรี

6. “ปิล็อก” หมู่บ้านอีต่อง เมืองขุมทองแห่งธรรมชาติ

Section image

“ปิล็อก” ตำนานแห่งเหมืองอันรุ่งโรจน์ ณ เทือกเขาตะนาวศรี ตั้งอยู่ในตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี หลังจากกิจการเหมืองแร่ไม่สู้ดีนัก ทีนี่จึงได้พัฒนาปรับเปลี่ยนมาเป้นแหล่งท่องเที่ยว พัฒนากันเป็น รีสอร์ท แบบท้องถิ่น ซึ่งดังที่สุดก็น่าจะเป็น “เหมืองสมศักดิ์” ดูแลโดยป้าเกล็น หญิงต่างชาติซึ่งกลายเป็นตำนานและสัญลักษณ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสปิล็อก ที่หัวกระไดไม่เคยแห้ง

หมู่บ้านอีต่อง เมืองชายแดนสองสัญชาติ ไทย-พม่า เป็นชื่อที่จับพัดจับผลูมาจาก ณัตเอ่งต่อง ที่มีความหมายว่า ภูเขาแห่งเทพเจ้า ใครจะมาเที่ยวหมู่บ้านอีต่อง ไม่ควรคาดหวังอะไรไปมากกว่า บรรยากาศแห่งการพักผ่อน เพราะที่นี่คือที่ที่เงียบสงบ อากาศเย็นสบาย และวิวทิวทัศน์ดีเป็นเยี่ยม

มีเส้นทางเดินชมวิถีชีวิต และมีเส้นทางให้เดินไปชมวิวยังชายแดน ห่างจากหมู่บ้านไป ไม่ถึง 2 กิโล ก็จะได้ชมวิวมุมสูงทิวทัศน์ธรรมชาติ ขุนเขาของฝั่งไทย และฝั่งพม่า นั่งรับลม ชมบรรยากาศ เรื่อยๆ เอื่อยๆ ได้จนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เพราะอากาศที่นี่เย็นสบายดี รอบกายมีแต่ขุมทรัพย์ธรรมชาติ แมกไม้ สายธาร

อ่านริวิวเพิ่มเติม :

  • บ้านอีต่อง ขุมทองสองวัฒนธรรม และธรรมชาติบนขุนเขา
  • ปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

7. เขาช้างเผือก

Section image

ขอบคุณรูปภาพจาก tiewpakklang.com

“เขาช้างเผือก“ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ในการขึ้นไป จะจำกัดจำนวนวันละไม่เกิน 60 คน และต้องจองล่วงหน้า 7 วัน พร้อมส่งชื่อ-สกุล เลขที่บัตรประชาชน และที่อยู่ให้ทางอุทยานฯ โดยจะใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 6 ชั่วโมง เป็นระยะทาง 8 กิโลเมตรพร้อมกางเต้นท์ค้างคืนบนยอดเขา 1 คืน ซึ่งทางอุทยานฯ จะจัดเจ้าหน้าที่นำทาง และจ้างลูกหาบช่วยขนสัมภาระให้ ใน 1 ปี จะเปิดให้คนเข้าไปท่องเที่ยวเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น เพื่อรักษาสมดุลของธรรมชาติ

อ่านรีวิวเพิ่มเติม : เขาช้างเผือก สุดยอดทางเลือกของนักผจญภัย

8. ป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม อ.ทองผาภูมิ

Section image

ขอบคุณภาพจาก ภาพจากคุณ Tanist Jitsinchayakul

จุดชมวิวป้อมปี่ เป็นสถานที่ชมวิวในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมที่หลายๆ คนพูดถึงว่าเป็นจุดที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม โรแมนติก และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งทางภาคตะวันตก เหมาะแก่การพักผ่อนแบบไม่ลำบากมาก มีบรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ มองเห็นท้องน้ำของอ่างเก็บน้ำในเขื่อนวชิราลงกรณ์ ทิวทัศน์ภูเขาอยู่ไกลสายตาออกไป หน้าหนาวได้เห็นไอหมอกละเลียดตามผิวน้ำ จนหลายคนคิดไปว่ากำลังนอนอยู่ที่ปางอุ๋งจังหวัดแม่ฮ่องสอน เลยทีเดียว

การเดินทาง : จากตัวเมืองกาญจนบุรี วิ่งบนถนนแสงชูโตที่เป็นถนนสายหลัก ถึงสี่แยกแก่งเสี้ยน เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายอำเภอไทรโยค – ทองผาภูมิ (ทางหลวงหมายเลข 323) ก่อนถึงตัวอำเภอทองผาภูมิ มีสามแยก เลี้ยวขวาไปทางอำเภอสังขละบุรี (ด่านเจดีย์สามองค์) จะผ่านวัดท่าขนุน น้ำตกเกริงกระเวีย น้ำตกไดช่องถ่อง หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาแหลม(เกริงกระเวีย) เลยจากอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตรจะพบทางเข้าจุดชมวิวป้อมปี่อยู่ทางซ้ายมือ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : อุทยานแห่งชาติเขาแหลม โทร.086-131-3443 (ป้อมปี่), 034-546-819, 034-532-099

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://travel.mthai.com

การเดินทางไปจังหวัดกาญจนบุรี

โดยรถประจำทาง

มีรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศของบริษัท ขนส่ง จำกัด และของเอกชน สายกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี กรุงเทพฯ-ด่านเจดีย์สามองค์ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ถนนบรมราชชนนี ทุกวัน วันละหลายเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

โดยรถยนต์

  • เส้นทางที่ 1: ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ใช้ทางนครชัยศรี นครปฐม บ้านโปง ท่ามะกา ท่าม่วง (เข้าเส้นราชบุรี) จนเข้าเส้นทางจังหวัดกาญจนบุรี

  • เส้นทางที่ 2: ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 338 จากกรุงเทพฯ จนถึงนครชัยศรี แล้วใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 ที่มุ่งหน้าเช้าจังหวัดกาญจนบุรี รถโดยสารประจำทาง จากกรุงเทพฯ ไปตามถนนบรมราชชนนี แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านนครชัยศรี นครปฐม จากนั้นใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 323 ผ่านบ้านโป่ง ท่ามะกา ท่าม่วง ถึงกาญจนบุรี ระยะทางประมาณ 129 กิโลเมตร

โดยรถไฟ

มีรถไฟออกจากสถานีบางกอกน้อย ทุกวัน วันละ 2 เที่ยว ส่วนวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ การรถไฟแห่งประเทศไทยจัดเส้นทางท่องเที่ยวสายน้ำตกกาญจนบุรี

Event Listing by Runlah
This event is part of the Runlah consolidated event database, bringing together running events for the community.
Disclaimer !
Event details may change. Please verify the latest information on the official event website before making any plans.
For Event Organizers
Want to promote your event or enhance your race experience with our Runlah services? Contact us at support@runlah.com