Pla3 Mini Marathon 2017

Saturday, December 2, 2017

สถานที่รับเสื้อ-เบอร์ หน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสงคราม (พิกัด 13.411887, 100.002137)

- หลักฐานการรับเสื้อ เบอร์ ใบตอบรับทางอีเมล์ และบัตรประชาชน

• บริการจัดส่งพัสดุ ค่าจัดส่ง 50 บาท/คน
• ไม่มีการรับเสื้อ-เบอร์ในวันแข่งขัน ทุกกรณี

15 สิงหาคม 2560 นี้ เปิดรับสมัครนักวิ่งแล้วจร้า

Facebook page : https://www.facebook.com/Pla2MiniMarathon/

รันลาพาชิว

10 ที่เที่ยวสมุทรสงคราม มาแล้วต้องแวะให้ได้

ที่เที่ยวสมุทรสงคราม ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ มีที่ไหนบ้าง วันนี้เรามีข้อมูล 10 สถานที่ท่องเที่ยวสมุทรสงคราม มาฝากบอกเลยน่าไปเยือนมาก ๆ

ภาพจาก ททท.

ตั้งอยู่บริเวณถนนเพชรสมุทร ในเขตอำเภอแม่กลอง เป็นวัดสำคัญและมีชื่อเสียงของจังหวัดมาเป็นเวลานาน สร้างขึ้นในรัชสมัยพระเจ้าปราสาททองแห่งกรุงศรีอยุธยา ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อวัดบ้านแหลม ที่ถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดสมุทรสงคราม มีความเชื่อเล่าขานกันว่า ใครก็ตามที่ได้มีโอกาสมาสักการะและปิดทองที่องค์พระพุทธรูป จะบังเกิดความสิริมงคล และสมความปรารถนาที่ตั้งใจเอาไว้ ทุก ๆ ปีจะมีจะมีการจัดงานปิดทององค์หลวงพ่อ 3 ครั้ง ซึ่งจะจัดขึ้นช่วงเดือนเมษายนตรงกับเทศกาลสงกรานต์ของชาวไทยและชาวรามัญ งานสาทรเดือน 11 และช่วงเทศกาลตรุษจีน ใครผ่านไปผ่านมาอย่าลืมแวะเข้าสักการะกันได้นะคะ

ภาพจาก ททท.

ตั้งอยู่ที่อำเภอบางคนที เป็นวัดเก่าแก่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น โบสถ์ปรกโพธิ์ โบสถ์เก่าแก่ที่ปัจจุบันถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ ทั้งโพธิ์ ไทร ไกร และกร่าง เป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงคราม ภายในประดิษฐานพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า "หลวงพ่อโบสถ์น้อย" หรือ "หลวงพ่อดำ" นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังจะได้เพลิดเพลินชมความสวยงามของภาพจิตรกรรมฝาผนังปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ทางด้านหลังของบริเวณวัดมีศาลที่ชื่อว่า "ศาลนางไม้เจ้าจอม" อันเป็นที่สักการะของบุคคลทั่วไป ส่วนบริเวณหน้าวัดด้านติดกับแม่น้ำแม่กลอง เป็นที่อยู่อาศัยของปลาจำนวนมาก จนได้ชื่อว่า "วังมัจฉา" มาเที่ยววัดนี้วัดเดียวรับรองว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

ภาพจาก ททท.

หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสมุทรสงคราม ตั้งอยู่ปากแม่น้ำแม่กลอง มีอาณาเขตกว้างประมาณ 3 กิโลเมตร ยื่นลึกออกไปทะเล เกิดเป็นตะกอนทับถมจากปากแม่น้ำผสมกับตะกอนจากทะเล จนเป็นสันดอนที่มีลักษณะเด่นที่พบได้ยากในเมืองไทย สาเหตุที่ชื่อว่าดอนหอยหลอด เพราะที่นี่เป็นแหล่งที่อยู่ของหอยนานาชนิด แต่พบว่าหอยหลอดมีจำนวนมากที่สุด ช่วงที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวดอนหอยหลอดมากที่สุดคือ ประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ซึ่งเป็นเวลาที่น้ำทะเลลดลงนานกว่าช่วงอื่น จนสามารถเห็นสันดอนที่โผล่พ้นน้ำออกมา โดยรอบบริเวณดอนหอยหลอดมีร้านค้าร้านอาหารให้ไว้บริการมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรับลมเย็น ๆ เพลิน ๆ ทานอาหารอร่อย ๆ แล้วหลับเอาแรงสักงีบก็ยังได้

ภาพจาก ททท.

ตั้งอยู่ที่ตำบลมะโนรา เป็นตลาดน้ำเล็ก ๆ ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความงดงามของธรรมชาติตามแบบวิถีชีวิตชาวบ้าน นักท่องเที่ยวจะเห็นภาพเหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่บรรทุกสินค้ามาเต็มลำเรือแน่นเต็มคลองดอนมะโนรา สินค้าที่นำมาขายส่วนใหญ่เป็นของกิน ผลิตผลทางการเกษตร ผัก และผลไม้ต่าง ๆ น้ำตาลก้อน น้ำตาลสด ตลอดจนข้าวของเครื่องใช้ในครัว นักท่องเที่ยวคนไหนที่มีโอกาสไปยังตลาดน้ำดอนมะโนรา จะได้ซึมซับอารมณ์และความรู้สึกดั้งเดิมของวิถีชีวิตชาวบ้าน ผู้คนที่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกัน ร้อยทั้งร้อยรับรองว่าคุณจะต้องหลงเสน่ห์ความงดงามที่น่าหลงใหลของตลาดน้ำดอนมะโนราอย่างแน่นอน

ตลาดริมน้ำแม่กลองที่มีอายุกว่า 100 ปี เป็นตลาดริมน้ำที่ยาวที่สุดของจังหวัดสมุทรสงคราม นักท่องเที่ยวจะเห็นบ้านเรือนไม้หลังเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่ริมคลองสองฝั่ง รวมถึงยังพบร่องรองในอดีตซึ่งเป็นเรื่องเล่าในวันวาน เช่น ร้านขายยาจีนตงซัวฮึ้ง ปั๊มน้ำมันเก่าแก่ริมแม่น้ำ บ้านนายกังวาน "เจ้าพ่อบางนกแขวก" บ้านอภิเดช ศิษย์หิรัญ นักมวยไทยฉายาจอมเตะแห่งบางนกแขวก เป็นต้น นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับอาหารการกินหลากหลายรูปแบบ ทั้งก๋วยเตี๋ยวปู ผัดไทยกุ้งสดสูตรโบราณ (ขอบอกว่ากุ้งตัวอย่างเบิ้ม) ก๋วยเตี๋ยวกะลาโบราณ ขนมจีนซาวน้ำ หอยเชลล์อบเนย สละลอยแก้ว และอื่น ๆ อีกมากมาย นับเป็นอีกหนึ่งตลาดน้ำที่มีความสมบูรณ์เรื่องอาหารการกินไม่เป็นสองรองใครที่ไหนเลย เปิดตลาดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.00-17.00 น.

ภาพจาก ททท.

ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าคา ตลาดน้ำที่ยังคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตชาวบ้านดั้งเดิม อันสะท้อนให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างชีวิตและสายน้ำ จากเดิมที่ชาวบ้านจะพายเรือออกมาเพื่อพูดคุยและแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกัน จากนั้นพัฒนามาเป็นการนำเอาออกมาวางขายให้กับคนภายนอกได้ซื้อหา สินค้าที่พ่อค้าแม่ค้านำมาขายส่วนใหญ่มักเป็นผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเป็นสินค้าที่มีอยู่ดั้งเดิมของจังหวัด รวมถึงผักและผลไม้สด ๆ ใหม่ ๆ จากท้องไร่ ที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนให้ได้ชิมตามฤดูกาล มีทั้งกล้วย มะนาว ฟักทอง ผักบุ้ง ตำลึง เป็นต้น ตลาดน้ำท่าคา นับเป็นตลาดน้ำอีกแห่งหนึ่งที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของความเป็นชาวสวน และคงไว้ซึ่งบรรยากาศชนบทแบบคลาสสิก ที่หาดูไม่ได้จากที่ไหนได้ง่าย ๆ

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ตลาดน้ำบางน้อย บางคนที สมุทรสงคราม

ตั้งอยู่ที่ปากคลองบางน้อย ในอดีตย่านชุมชนบางน้อยแห่งนี้ เคยเป็นย่านการค้าทางน้ำที่ความสำคัญมาแห่งหนึ่งในลุ่มแม่น้ำกลอง ตลอดเส้นทางลำน้ำจะเห็นบ้านไม้เรียงแถวทอดเป็นแนวยาว ซึ่งภายในมีร้านค้าที่น่าสนใจมากมาย นักท่องเที่ยวจะได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกับชาวบ้านอย่างเป็นกันเอง รวมถึงยังมีของโบราณเก่าแก่ที่จัดรวบรวมไว้ให้ได้ชมกันใน "พิพิธภัณฑ์ตั้งเซียมฮะ" บนฝั่งที่ว่าน่าสนใจแล้ว สินค้าของพ่อค้าแม่ขายที่ลอยเรือมาให้เราได้ชมก็น่าสนใจไม่แพ้กัน สินค้าส่วนใหญ่เป็นผลผลิตเกษตรกรรมจากชาวบ้าน เช่น ลิ้นจี่ มะม่วง ส้มโอ มะเฟือง ชมพู่ เป็นต้น ส่วนใครที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านให้ดียิ่งขึ้น ที่นี่ยังมีที่พักแบบโฮมสเตย์ ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ โดยตลาดเปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ประชาสัมพันธ์ชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์กลุ่มรักษ์บางคนที โทร 081 308 7378, 081 812 4835 หรือ bangnoi.com)

ภาพจาก ททท.

ตั้งอยู่ที่ตำบลแมวค้อม อำเภออัมพวา น่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกใจคนรักแมวอยู่ไม่มากก็น้อย เพราะที่นี่เป็นสถานที่ส่งเสริมและสนับสนุนการอนุรักษ์แมวไทย ที่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 5 ชนิดเท่านั้น คือ แมววิเชียรมาศ แมวสีสวาด แมวศุภลักษณ์ แมวโกนจา และแมวขาวมณี นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้รับความรู้เรื่องแมวไทยชนิดต่าง ๆ แล้ว ยังจะได้เห็นเจ้าแมวน้อยทั้งหลายแสดงอิริยาบถต่าง ๆ ที่ชวนมอง ส่งเสียงร้องเหมียว ๆ ทักทายนักท่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวยังสามารถช่วยสนับสนุนค่าอาหารน้องแมวได้ตามอัธยาศัย นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาข้อมูลแมวไทยพันธุ์แท้ ซึ่งถ้าหากว่าสนใจจริง ๆ ที่นี่ยังจำหน่ายแมวให้กลับไปเลี้ยงที่บ้านอีกด้วย (ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ศูนย์อนุรักษ์แมวไทยโบราณ จังหวัดสมุทรสงคราม (บ้านแมวไทย) FC)

ภาพจาก ททท.

ศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ของชาวคริสต์ ตั้งอยู่ที่ตำบลบางนกแขวก สร้างโดยบาทหลวงเปาโลซัลมอน มิชชันนารีชาวฝรั่งเศส ใช้เวลาสร้าง 6 ปีเต็มถึงจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ และได้มีการทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2439 งดงามด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบโกธิคของประเทศฝรั่งเศส เมื่อกวาดสายตามองไปยังผนัง จะพบเรื่องราวของพระนางมารีย์ ภาพของนักบุญชายหญิง รูปปั้น ธรรมเทศน์ อ่างล้างบาป และรูปแกะสลักบรรยายเกร็ดประวัติในพระคัมภีร์คริสต์ศาสนา นับได้ว่าเป็นโบสถ์ที่มีความงดงามอีกแห่งหนึ่ง ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกรับชมความงามของโบสถ์ได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเดินสำรวจ นั่งริมน้ำเพื่อสัมผัสบรรยากาศสบาย ๆ หรือจะนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามชมความงามของโบสถ์จากอีกฝากหนึ่งก็ยังได้

ภาพจาก 7greens.tourismthailand.org

ตั้งอยู่ที่ตำบลบางพรม ชาวบ้านส่วนใหญ่ในชุมชนเป็นชาวสวนดั้งเดิม ที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตร ความพิเศษของชุมชนแห่งนี้คือ การทำเกษตรอินทรีย์ ที่เกิดการรวมกลุ่มในรูปแบบมหาวิชชาลัยภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อจัดระเบียบองค์ความรู้ต่าง ๆ ตลอดจนถ่ายทอดประสบการณ์ด้านการเกษตรไปยังชุมชนอื่นอย่างเป็นระบบ ถือเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อการท่องเที่ยววิถีชุมชนชาวสมุทรสงคราม โดยนักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์ตามฐานกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเผ่าถ่านผลไม้ การผลิตปุ๋ยน้ำ การปลูกส้มโอปลอดสารพิษ เป็นต้น นักท่องเที่ยวยังสามารถปั่นจักรยานไปรอบ ๆ ชุมชน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะได้สัมผัสชุมชนบ้านบางพลับอย่างใกล้ชิดมากขึ้น (สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ชุมชนบ้านบางพลับ โทร. 034 761 985, 08 9 829 7100)

สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้เราเห็นว่าจังหวัดสมุทรสงคราม ยังคงอบอวลไปด้วยวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวบ้าน และอุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารการกิน ตลอดจนโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์ที่ยังเป็นที่เคารพบูชาของคนในจังหวัด หากว่าเพื่อน ๆ เป็นคนหนึ่งที่เคยมองข้ามจังหวัดนี้ไปแล้วละก็ ขอบอกว่าเลยพลาดมาก ๆ ลองหันมาเที่ยวจังหวัดใกล้ ๆ กรุงเทพฯ อย่างสมุทรสงครามดู แล้วจะรู้ว่ามีของดีซ่อนอยู่อีกเพียบ