ASICS Relay Thailand 2018

สำหรับนักวิ่งสัญชาติไทยและชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย

• วันที่ : 2 - 3 ตุลาคม 2561 (อังคาร - พุธ)

• เวลา : 11:00 น. - 21:00 น.

• สถานที่ : ลานอีเดน 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

• Google Map : https://goo.gl/maps/qfX6dGL27tS2

สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่ได้พำนักในประเทศไทย

• วันที่ : 6 ตุลาคม 2561 (เสาร์)

• เวลา : 18:00 น. - 20:30 น.

• สถานที่ : กองอำนวยการในสถานที่จัดงาน ณ ราชนาวีสโมสร ถนนมหาราช

• Google Map : https://goo.gl/maps/c9SZb57x6zK2

วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม 2561

ราชนาวีสโมสร ถนนมหาราช

วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2561

ราชนาวีสโมสร ถนนมหาราช

หมายเหตุ : ตารางการจัดงานและกิจกรรมอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

เลือกสีของคุณ

ให้คุณเลือกสีเสื้อได้อย่างอิสระ จะทีมสีเดียวกันหรือต่างคนต่างสี ก็ไม่มีปัญหา

การรับหมายเลขประจำตัวนักวิ่ง (BIB)

ทีมสามารถส่งตัวแทนเพียง 1 ท่านมารับหมายเลขประจำตัวแทนสมาชิก ที่เหลือในทีมได้ ผู้จัดขอสงวนสิทธิ์ในการแจกหมายเลขการวางรวมกัน ทั้งทีมเป็น 1 ชุด และไม่สามารถแจกหมายเลขการวิ่งให้สมาชิกในทีม เป็นนรายบุคคลได้

ขอความร่วมมือให้ผู้ที่มารับหมายเลขประจำตัวนักวิ่งงเตรียมเอกสาร เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้อำนวยความสะดวกให้ท่านอย่างรวดเร็วดังนี้ :

1. สำเนาบัตรประชาชนหรืออสำเนาหนังสือเดินทาง
2. เอกสารตอบรับเข่ารวมการแข่งขัน (สามารถแสดงผลผ่านหน้าจอโทรศัพท์มือถือหรือเอกสารได้)
3. เอกสารการยินยอมให้ร่วมแข่งขันจากผู้ปกครอง (ในกรณีที่ผู้แข่งขันอายุไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่แข่งขัน)

ผู้จัดขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธการแจกหมายเลขวิ่งและของที่ระลึก จากผู้สนับสนุนแก่ตัวแทนทีมที่ไม่สามารถแสดงเอกสารด้านบนนี้ อย่างครบถ้วน

หากไม่มีตัวแทนทีมมารับหมายเลขการแข่งขันของทีมในวันนัดหมาย ที่ระบุไว้หรือติดต่อขอรับภายหลัง ณ วันจัดการแข่งขัน ผู้จัดการแข่งขันจะไม่รับผิดดชอบต่อการสูญหายหรือเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อหมายเลขวิ่งและของที่ระลึกจากผู้สนับสนุนที่ท่านต้องได้รับ

เสื้องานวิ่งแบรนด์ ASICS สุดเอ็กซ์คลูซีฟ จำนวน 4 ตัว

เหรียญรางวัล จำนวน 4 เหรียญ

หมายเลขประจำตัวนักวิ่ง RACE BIB จำนวน 4 BIB

กระเป๋าใส่อุปกรณ์การแขงขัน ASICS RELAY

สายรัดเปลี่ยนผลัด (จะแจกให้กับทีมในวันแข่งเท่านั้น)

รางวัล

รางวัลสำหรับทีมแข่งขันฟูลมาราธอน (ทีมชายล้วน ทีมหญิงล้วน และทีมผสม)

*ทีมที่ชนะการแข่งขัน 3 อันดับแรกต้องรายงานตัวต่อคณะกรรมการ และร่วมในพิธีมอบรางวัลบนเวที ส่วนทีมที่ได้อันดับที่ 4 - 8 ไม่ต้องขึ้นรับรางวัลบนเวทีแต่ต้องรายงานตัวต่อคณะกรรมการเพื่อขอรับรางวัล

รางวัลสำหรับทีมแข่งขันฮาล์ฟมาราธอน (ทีมชายล้วน ทีมหญิงล้วน ทีมผสม)

หมายเหตุ :

• ผู้จัดการแข่งขันขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรางวัล ตามความเหมาะสม
• ผลการแข่งขันที่ยืนยันโดยคณะกรรมการการแข่งขัน ถือเป็นที่สิ้นสุด
• ผูู้ที่ได้รับรางวัลเป็นรองเท้าและเครื่องนุ่งห่ม จะได้รับ การแจ้งสถานที่เพื่อรับรางวัลหลังจากวันแข่งขัน
• รางวัลไม่สามารถถูกโอนหรือแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ และต้องเป็นไปตามกฎ และข้อบังคับและ/หรือข้อกำหนด และเงื่อนไขที่กำหนดโดยผู้จัดการแข่งขัน
• ผู้จัดการแข่งขันขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงลำดับผู้ชนะ หากพบว่ามีผู้ชนะมีการทุจริตการแข่งขัน
• ผู้ที่ได้รับรางวัลจะต้องเสียภาษี ณ ที่จ่าย

ทีมที่ชนะการแข่งขันประจำประเทศที่จัดงาน เพื่อสนับสนุนและช่วยผลักดันทีมนักวิ่งให้ข้ามขีดจำกัด ASICS Relay 2018 ขอมอบให้แก่ทีมที่ชนะในการแข่งขันระยะฟูลมาราธอน ทั้งทีมชาย ทีมหญิง และทีมผสม ที่ทำเวลาการแข่งขันได้ดีที่สุดจากทุกประเทศ ด้วยรางวัลสุดพิเศษสำหรับ 3 ทีม ไปร่วมแข่งขันงาน ASICS Relay 2019 ในประเทศไหนก็ได้ที่จัดการแข่งขันนี้

รางวัลมูลค่ากว่า 3,000 สิงคโปร์ดอลลาร์ (ต่อทีม) :

• สิทธิ์ในการร่วมแข่งขัน 1 ทีม
• ตั๋วเครื่องบินไป - กลับ 4 ที่นั่ง
• ที่พัก 1 คืนในวันแข่งขัน 2 ห้อง

ASICS Relay Thailand ใช่ระบบการจับเวลาในเส้นทางของ MyLaps Timing Chip เพื่อบันทึกเวลาของนักวิ่ง ซึ่งชิปจับเวลาจะถูกติดไว้ด้านหลังของหมายเลขประจำตัวนักวิ่ง

ใช้งานชิปจับเวลาอย่างไร?

• ชิปจับเวลาเป็นแบบใช้ครั้งเดียวเฉพาะงาน จะถูกติดไว้ด้านหลังของ หมายเลขประจำตัวนักวิ่งทุกท่าน

ควรทำอย่างไรกับชิปจับเวลาหลังเสร็จสิ้นการวิ่งแล้ว?

• ท่านไม่จำเป็นต้องส่งชิปจับเวลาคืนให้แก่ผู้จัดงาน และเก็บหรือทำลายทิ้งได้ตามต้องการ

หากชิปจับเวลาเปียกน้ำจะเป็นอย่างไร?

• ชิปจับเวลาเป็นแบบกันน้ำ ซึ่งจะทนทานต่อฝน ความร้อน ความชื้น และสภาวะแปรปรวนทางอากาศอื่นๆ ได้ดี

จะทราบได้อย่างไรว่าชิปจับเวลาทำงานได้ในการแข่งขัน?

• ชิปจับเวลาจะถูกบันทึกข้อมูล และตรวจสอบก่อนถูกส่งมอบให้นักวิ่ง ซึ่งจะถูกตั้งระบบให้อยู่ในโหมดเตรียมพร้อมและไม่จำเป็นต้องเปิดการใช้งานอีก ระบบการทำงานจะเปิดเองโดยอัตโนมัติหลังจากที่ผู้จัดเปิดระบบ ในงานวิ่งแล้วว และนักวิ่งเข้าใกล้จุดจับสัญญาณในรัศมี 1 เมตร ที่จะปล่อยตัว เส้นชัย และจอดจับเวลาตามเส้นทางการวิ่ง

ไม่ควรทำอย่างไรกับชิปจับเวลา?

• นักวิ่งไม่ควรบิดงอ ทำลาย ดัดแปลง หรือดึงชิปจับเวลาออกจากป้าย หมายเลขนักวิ่ง หากคณะกรรมการตรวจพบจะถือว่านักวิ่งถูกตัดสิทธิ์ จากการแข่งขัน

ทำไมเวลาในชิปจับเวลาจึงไม่ตรงกับเวลาสัญญาณปล่อยตัว?

• ชิปจับเวลาที่ติดอยู่ด้านหลังหมายเลขนักวิ่งจะบันทึกเวลาหากนักวิ่งได้ผ่าน จุดจับสัญญาณบริเวณจุดปล่อยตัว เส้นชัย และจุดจับเวลาตามเส้นทาง การวิ่งเท่านั้น แต่การให้สัญญาณปล่อยตัวทำเพียงครั้งเดียวและนักวิ่งที่อยู่ท้ายแถวปล่อยตัวต้องใช้เวลาครู่หนึ่งก่อนจะมาถึงจุดรับสัญญาณตรงจุดปล่อยตัวจึงทำให้เวลาที่ปรากฏแตกต่างกัน

ชิปจับเวลามีความแม่นยำแค่ไหน?

• เวลาที่ปรากฏในผลการวิ่งด้วยชิปจับเวลามีความแม่นยำสูงเพราะจะเป็น การจับสัญญาณจริงเมื่อนักวิ่งได้ผ่านจุดจับสัญญาณเท่านั้น นอกจากนั้น ยังสามารถบอกข้อมูลความเร็วของนักวิ่งโดยแยกเป็นระยะทางย่อยๆ ได้อีกด้วย

• การแข่งขันและการจัดบนเส้นทางการวิ่งจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จนกว่านักวิ่งคนสุดท้ายจะเข้าสู่เส้นชัยโดยสวัสดิภาพและครบถ้วน ตามจำนวนระยะทางที่ทีมได้ลงทะเบียนไว้
  • ระยะฮาล์ฟมาราธอน 21 กิโลเมตร สมาชิกในทีมต้องวิ่งคนละ 1 รอบ (รอบละ 5.25 กิโลเมตร)
  • ระยะฟูลมาราธอน 42 กิโลเมตร สมาชิกในทีมต้องวิ่งคนละ 2 รอบ (รอบละ 5.25 กิโลเมตร)

Half Marathon 21 กิโลเมตร

Full Marathon 42 กิโลเมตร

*เวลาในตารางนี้เป็นเวลาที่ผู้จัดแนะนำให้นักวิ่งในลำดับต่างๆเตรียมพร้อมในบริเวณที่กำหนดไว้

ข้อมูลสำคัญที่นักวิ่งควรทราบ

1. นักวิ่งควรมาถึงสถานที่จัดงานก่อนเวลาปล่อยตัวอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพราะให้มีเวลาเตรียมตัวและฝากสัมภาระ ก่อนเริ่มการแข่งขัน
2. นักวิ่งควรเข้ารายงานตัวและเข้าสู่จุดเปลี่ยนผลัดตามเวลาที่กำหนด เพื่อป้องกันการถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขัน
3. นักวิ่งทุกท่านควรติดหมายเลขประจำตัวนักวิ่ง (bib) ไว้ในตำแหน่งที่เห็นชัดเจนตลอดเวลา ท่านที่ไม่มีหมายเลขประจำตัวนักวิ่งจะไม่สามรถร่วมแข่งขันได้ไม่ว่ากรณีใด ๆ
4. ผู้จัดการแข่งขันคำถึงถึงความปลอดภัยต่อสุขภาพของทุกท่าน หากท่านรู้สึกเจ็บป่วยหรือมีเหตุผิดปกติในระหว่างการวิ่ง ขอให้ท่านหยุดวิ่งทันที และแจ้งต่อเจ้าหน้าที่กำกับเส้นทางที่ใกล้ท่านที่สุด
5. ทีมของท่านต้องวิ่งในเส้นทางให้ครบระยะตามประเภทการวิ่งที่ท่านลงสมัครไว้ เช่น ระยะฮาล์ฟมาราธอน 21 กิโลเมตร และ ระยะฟูลมาราธอน 42 กิโลเมตร โดยนักวิ่งแต่ละท่านในระยะฮาล์ฟมาราธอน 21 กิโลเมตร ต้องวิ่งคนละ 1 รอบ (รอบละ 5 กิโลเมตร ) และ นักวิ่งแต่ละท่านในระยะฟูลลมาราธอน 42 กิโลเมตร ต้องวิ่งคนละ 2 รอบ (รอบละ 5 กิโลเมตร)

เว็บไซต์ : http://www.asicsrelay.com/

เฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/ASICS/

สอบถามเกี่ยวกับการสมัคร : 081-8186155 (จันทร์-ศุกร์ 10:00-17:00)